เมื่อพูดถึงเรื่องการเงิน หลายคนอาจจะนึกถึงรายได้ก่อนเป็นอันดับแรก แต่ความจริงแล้ว พฤติกรรมในการใช้เงินต่างหากที่มีผลชัดเจนกว่า คนบางกลุ่มอาจมีรายได้ปานกลางแต่เก็บเงินได้มาก ในขณะที่อีกกลุ่มแม้จะมีรายได้สูงกลับไม่เหลือเก็บเลย เพราะนิสัยทางการเงินไม่ได้ขึ้นกับจำนวนเงินที่หาได้เท่านั้น แต่มาจากวิธีคิด วิธีวางแผน และวิธีใช้ในแต่ละวัน ความต่างเล็กๆ ในพฤติกรรม เช่น การจดรายจ่าย การตั้งเป้าออม หรือแม้แต่การเลี่ยงของไม่จำเป็น มักมีผลมากกว่าที่คิด บทความนี้จะพาไปดูว่าการมีนิสัยทางการเงินที่ดี วัดกันตรงไหนบ้าง ไม่ใช่แค่เรื่องไม่มีหนี้เสมอไป เพราะความมั่นคงทางการเงิน ไม่ได้วัดกันแค่ยอดเงินในบัญชี แต่วัดกันที่วิธีจัดการตั้งแต่บาทแรกที่ได้รับมา
คนที่ไม่เป็นหนี้ ไม่ได้แปลว่าจัดการเงินดีเสมอไป
หลายคนอาจคิดว่าใครไม่มีหนี้ นั่นแปลว่ามีนิสัยทางการเงินที่ดี แต่ความจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น การไม่มีหนี้อาจมาจากหลายเหตุผล เช่น ไม่กล้ากู้ ไม่รู้วิธีใช้เครดิต หรือมีรายได้สูงจนไม่ต้องพึ่งสินเชื่อ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับวินัยในการใช้จ่ายหรือการวางแผนระยะยาวเลย ในขณะเดียวกัน คนที่มีหนี้บางรายอาจเป็นหนี้จากการลงทุน เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือขยายธุรกิจ แต่เขาก็สามารถชำระได้ตรงเวลาและมีแผนชัดเจน การวัดนิสัยทางการเงินจึงควรมองลึกกว่าตัวเลขหนี้ เพราะสิ่งที่สะท้อนชัดกว่าคือพฤติกรรม เช่น ใช้จ่ายเกินตัวหรือไม่ ออมสม่ำเสมอหรือเปล่า และเข้าใจเงินของตัวเองมากน้อยแค่ไหน เรื่องพวกนี้ต่างหากที่ควรใช้พิจารณา
คนที่มีวินัยทางการเงิน มักวางแผนก่อนใช้เสมอ
นิสัยพื้นฐานของคนที่จัดการเงินได้ดี คือคิดก่อนใช้เสมอ ไม่ใช่แค่คิดว่าจะซื้ออะไรดี แต่คิดว่าควรซื้อหรือไม่ และมีเงินพอหรือยัง พวกเขามักมีแผนล่วงหน้า ทั้งรายจ่ายรายเดือน ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และเป้าหมายใหญ่ เช่น เงินเกษียณหรือค่าเรียนลูก การวางแผนแบบนี้ช่วยให้ไม่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเงินขาดมือ เพราะรู้แล้วว่าเงินแต่ละก้อนจะถูกใช้เมื่อไหร่ ทำให้รู้สึกมั่นคงกว่า แม้ไม่ได้มีรายได้สูง คนที่มีนิสัยนี้มักไม่ต้องไล่ตามเงิน เพราะเขาใช้เงินอย่างมีทิศทาง และไม่เสี่ยงกับการตกอยู่ในภาวะหมุนเงินตลอดเวลา การคิดล่วงหน้าแม้เพียงนิดเดียว จึงเป็นสิ่งที่แยกคนที่ใช้เงินเก่งออกจากคนที่แค่ใช้เงินไปวันๆ
ออมเงินเป็นประจำ แม้จำนวนน้อย ก็สำคัญกว่าเงินเดือนสูง
คนที่จัดการเงินได้ดีมักไม่ได้รวยจากรายได้มากมาย แต่เกิดจากนิสัยในการเก็บออมแบบต่อเนื่อง บางคนเงินเดือนปานกลาง แต่มีเงินเก็บหลายแสน เพราะรู้จักกันเงินไว้ก่อนใช้ทุกเดือน ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าจำนวน เพราะการเก็บครั้งละพันทุกเดือน ยังดีกว่าไม่เก็บเลยแล้วหวังจะเก็บก้อนโตทีเดียวในวันหนึ่งที่ไม่รู้จะมาหรือเปล่า คนที่ออมสม่ำเสมอจะคุ้นเคยกับการตัดใจจากความอยากบางอย่างเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า เช่น การมีเงินสำรองหกเดือน หรือการมีเงินไว้ลงทุนในอนาคต พฤติกรรมแบบนี้ไม่อิงโชคหรือโอกาส แต่อิงความตั้งใจที่จะเลือกชีวิตแบบไม่เสี่ยงเกินไป นี่คือพื้นฐานของนิสัยทางการเงินที่มั่นคงจริงๆ
ใช้เงินตามแผน มากกว่าตามอารมณ์
คนที่มีวินัยทางการเงินมักแยกแยะชัดเจนระหว่างความจำเป็นกับความอยาก เขาไม่ได้ห้ามตัวเองซื้อของแพง แต่รู้ว่าจะซื้อเมื่อไหร่ และซื้อเพราะอะไร ไม่ใช่ซื้อเพราะเครียด เหงา หรือโดนโฆษณายั่ว การใช้เงินตามอารมณ์มักทำให้เสียเงินกับของที่ไม่มีคุณค่าในระยะยาว เช่น ของใช้ที่ไม่ได้ใช้จริงๆ หรือบริการที่สมัครแล้วลืมยกเลิก คนที่จัดการเงินเก่งจะทบทวนการใช้จ่ายเสมอ บางคนถึงกับมีช่วง “พักซื้อ” เพื่อรีเซ็ตนิสัยการใช้จ่าย และทำให้กลับมามองเงินอย่างมีสติขึ้น สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากรายได้มากหรือน้อย แต่มาจากการฝึกฝนในการควบคุมใจตัวเอง ซึ่งทำให้เขาไม่ต้องมานั่งเสียดายเงินทีหลังบ่อยๆ
เข้าใจเรื่องการลงทุน แม้ไม่ได้ลงทุนเยอะ
นิสัยทางการเงินที่ดีไม่ใช่แค่ใช้ไม่เกินตัว แต่รวมถึงความเข้าใจในโอกาสงอกเงยของเงินด้วย คนที่มีวินัยทางการเงินมักศึกษาหรือเรียนรู้เรื่องการลงทุนอยู่เสมอ แม้เริ่มจากการซื้อกองทุนเล็กๆ หรือเปิดบัญชีหุ้นไว้ดูเฉยๆ เขารู้ว่าการฝากเงินอย่างเดียวไม่ได้ทำให้เงินโต แต่ก็ไม่รีบลงเงินโดยไม่ศึกษา คนแบบนี้มักไม่โดนหลอกง่าย ไม่ลงทุนเพราะกลัวพลาด แต่เลือกลงทุนเพราะรู้จริง การเรียนรู้เรื่องพวกนี้แม้จะดูน่าเบื่อ แต่กลับทำให้เข้าใจว่าเงินทำงานยังไง และควรเสี่ยงแค่ไหนถึงจะไม่เสียหาย การมีทัศนคติแบบนี้คืออีกขั้นของการมีวินัยทางการเงิน ที่ไม่ใช่แค่ใช้ให้อยู่รอด แต่ใช้เพื่อให้อนาคตมั่นคงกว่าปัจจุบัน
ข้อคิดส่งท้าย
เมื่อย้อนกลับไปดูแต่ละประเด็น จะเห็นได้ชัดว่านิสัยทางการเงินที่ดีไม่ใช่เรื่องที่ต้องอาศัยโชค หรือรายได้จำนวนมาก แต่มาจากพฤติกรรมเล็กๆ ที่ทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง คนที่วางแผนก่อนใช้ ออมเป็นประจำ ไม่หลงไปกับของที่ไม่จำเป็น และรู้จักศึกษาทางเลือกด้านการเงินอยู่เสมอ มักจะมีพื้นฐานที่มั่นคงกว่า ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีหนี้ แต่เพราะเขาควบคุมสถานการณ์ได้มากกว่า ถ้ารู้ว่าเงินเข้ามาจากไหน ออกไปทางไหน และกำลังพาไปทางใด ก็ย่อมไม่มีอะไรน่ากังวลจนเกินไป การมีนิสัยแบบนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ต้องเปลี่ยนชีวิตทั้งหมดในทันที แค่เริ่มจากการดูบัญชีของตัวเองให้ถี่ถ้วนขึ้น หยุดใช้เมื่อยังไม่แน่ใจ และเริ่มออมแม้จะทีละเล็กน้อย ทุกอย่างค่อยๆ เติบโตได้เสมอ นิสัยทางการเงินที่ดี ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แต่กำเนิด แต่เป็นสิ่งที่ฝึกได้ และเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น