หลายคนอาจคิดว่าบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีคือบัตรที่คุ้มค่าที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว บัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป หากไม่ได้พิจารณาสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นจากบัตรเครดิตอื่นๆ ให้ครบถ้วน ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 10 แนวทางในการเลือกบัตรเครดิตให้คุ้มค่ากว่าแค่การไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
1. เลือกบัตรเครดิตที่ผ่อนสินค้าแบบ 0% ได้
ข้อดีคือ เราไม่ต้องนำเงินก้อนไปจ่าย และสามารถนำเงินก้อนดังกล่าวไปใช้ในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การลงทุนในกองทุน ฝากธนาคาร หรือใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น สำหรับผู้ที่มีวินัยทางการเงิน การผ่อนชำระตรงเวลาและเต็มจำนวนก็จะสามารถได้รับผลประโยชน์จากการผ่อนชำระไปแบบเต็ม ๆ เช่น บัตรเครดิตที่ให้คุณผ่อน 0% แล้วยังให้เครดิตเงินคืน และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันภัย 0% สูงสุด 10 เดือน หรือการผ่อนชำระสินค้าไอที คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่งบ้าน
2. การบริการและการสนับสนุนทางเทคโนโลยี
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การเลือกบัตรเครดิตที่มีการบริการและการสนับสนุนทางเทคโนโลยีที่ดีเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม บัตรเครดิตที่มีแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ที่ครบครัน และระบบความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้การจัดการการเงินและการใช้จ่ายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น บัตรเครดิตที่นอกจากจะมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการครอบคลุมทุกด้านของการใช้บัตรเครดิตแล้ว ก็ยังมีระบบการตรวจสอบยอดการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ การแจ้งเตือนเมื่อมียอดการใช้จ่าย การชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และการรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง
การสนับสนุนทางเทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้เราสามารถติดตามการใช้จ่ายและจัดการยอดคงเหลือได้ง่ายขึ้น ทำให้เราสามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เกินตัว นอกจากนี้ การมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เช่น การยืนยันตัวตนผ่าน OTP (One-Time Password) หรือการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ไม่ปกติ จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าการใช้บัตรเครดิตของเราเป็นไปอย่างปลอดภัย
3. มีเครดิตเงินคืนทุกการใช้จ่าย
นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของกินของใช้ จ่ายค่าอาหารในร้านอาหารต่าง ๆ การซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน จ่ายค่าอาหารตามห้าง การเติมน้ำมัน หรือการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้จ่ายทุกวัน หากเราเลือกใช้บัตรเครดิตที่สามารถสะสมยอดค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปใช้เป็นเครดิตเงินคืนได้ ก็จะเหมือนเราได้รับส่วนลดเพิ่มเติมในทางอ้อมจากร้านค้าที่ร่วมรายการ เช่น บัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืนทุกยอดการใช้จ่ายสูงสุด 1-5% ตามหมวดสินค้าที่กำหนด
4. เลือกบัตรเครดิตตามการใช้งานของเรา
นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะสิทธิประโยชน์และโปรโมชันจากบัตรเครดิตควรจะสอดคล้องกับการใช้จ่ายของเราในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นจากการพิจารณาสัดส่วนการใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่าเราใช้จ่ายไปกับเรื่องอะไรมากที่สุด เช่น การช้อปปิ้งออนไลน์ การซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตร้านสะดวกซื้อ แพ็กเกจท่องเที่ยว หรือค่าบริการยิมออกกำลังกาย จากนั้นจึงค่อยลองพุ่งเป้าไปที่บัตรเครดิตที่มีโปรโมชันร่วมกับร้านค้า หรือกิจกรรมที่เราชอบทำ เช่น บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์จากร้านค้าชั้นนำในหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์กับ Shopee, Lazada, TikTok หรือซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Villa Market, Max Valu, Gourmet Market เป็นต้น
5. เลือกบัตรเครดิตที่สามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีได้
แม้ว่าการเลือกใช้บัตรเครดิตชนิดที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพและจะช่วยตัดความรำคาญของเราได้อย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงแล้ว บัตรเครดิตอื่นๆ ไม่ว่าจะธนาคารใด หากว่าเรามียอดค่าใช้จ่ายสะสมถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็จะสามารถขอยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีได้เช่นกัน เช่น บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรกที่สมัครใช้บริการ และหากมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตถึงเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นไปต่อปี ก็สามารถขอยกเว้นให้ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะสมัครบัตรเครดิต ควรตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดของบัตรเครดิตให้ละเอียด เพราะบางครั้งบัตรเครดิตที่ดูเหมือนจะไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี อาจมีเงื่อนไขซ่อนเร้น เช่น การต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือนเพื่อให้ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี ดังนั้นควรอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดให้ครบถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต
6. เลือกบัตรเครดิตที่มีการให้บริการลูกค้าที่ดี
การให้บริการลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกบัตรเครดิต เพราะหากเรามีปัญหาหรือคำถามเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต การมีทีมบริการลูกค้าที่ดีและพร้อมให้ความช่วยเหลือจะทำให้เรารู้สึกมั่นใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น เช่น การให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง การมีช่องทางติดต่อที่หลากหลาย และการให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
7. เลือกบัตรเครดิตที่มีโปรคะแนนสะสมและการแลกของรางวัลดีๆ
นี่เป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคะแนนสะสมเหล่านี้สามารถนำไปแลกของรางวัลหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ เช่น บัตรกำนัล ส่วนลดพิเศษ หรือแลกไมล์สะสมสำหรับการเดินทาง ดังนั้นควรเลือกบัตรเครดิตที่มีโปรแกรมสะสมคะแนนที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้จ่ายของเรา เช่น บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย มีโปรแกรมสะสมคะแนนที่น่าสนใจ ได้รับคะแนนสะสมจากทุกยอดการใช้จ่าย และสามารถนำคะแนนสะสมเหล่านี้ไปแลกของรางวัล หรือใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชั่นอย่างง่ายดาย
นอกจากการสะสมคะแนนแล้ว ควรตรวจสอบเงื่อนไขการแลกของรางวัลด้วย เช่น ระยะเวลาการสะสมคะแนน การหมดอายุของคะแนน และประเภทของรางวัลที่สามารถแลกได้ บางบัตรเครดิตอาจมีการจำกัดการแลกของรางวัลหรือมีเงื่อนไขที่ยุ่งยาก ทำให้การสะสมคะแนนไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร ดังนั้น การเลือกบัตรเครดิตที่มีโปรแกรมสะสมคะแนนที่ดีและมีเงื่อนไขการแลกของรางวัลที่ยืดหยุ่น จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และสามารถนำคะแนนสะสมไปใช้ในสิ่งที่เราต้องการได้อย่างคุ้มค่า
8. พิจารณาบัตรเครดิตที่ให้โปรโมชั่นหลากหลาย
นอกจากสิทธิประโยชน์พื้นฐานที่เราได้รับจากบัตรเครดิตอย่างเครดิตเงินคืน หรือการผ่อน 0% อะไรอย่างนี้แล้ว สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างการได้รับส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้าและบริการ สิทธิประโยชน์เหล่านี้สามารถช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ เช่น บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ได้รับส่วนลดพิเศษจากร้านค้าชั้นนำ การสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของกำนัล และการได้รับประกันภัยการเดินทางฟรี เป็นต้น
9. มีช่องทางจ่ายค่าบัตรเครดิตคืนที่หลากหลาย
นี่มีความสำคัญ เพราะหากเราจ่ายเงินคืนช้ากว่ากำหนดตามที่ Statement เรียกเก็บ จะทำให้เราต้องเสียเงินค่าดอกเบี้ยและค่าปรับเพิ่มขึ้น เราจึงควรเลือกบัตรเครดิตที่มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและไม่มีค่าธรรมเนียมในการชำระ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น บัตรเครดิตที่เปิดช่องทางให้ชำระค่าบัตรเครดิตแบบไม่มีค่าธรรมเนียมในหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านช่องทางของธนาคาร ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เครื่องเอทีเอ็ม และผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
10. เลือกบัตรที่ให้บริการด้านการเดินทางและท่องเที่ยว
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางและท่องเที่ยว การเลือกบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ด้านการเดินทางและท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม บัตรเครดิตที่มีสิทธิพิเศษในด้านนี้จะช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกสบายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตที่มีสิทธิพิเศษด้านการเดินทางและท่องเที่ยว การให้ส่วนลดพิเศษในการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และแพ็คเกจทัวร์ การได้รับประกันภัยการเดินทางฟรี และการสะสมคะแนนเพื่อแลกไมล์สะสมสำหรับการเดินทาง ทำให้การเดินทางของเราคุ้มค่าและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น การมีสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การได้รับประกันภัยการเดินทางฟรียังช่วยให้เรามั่นใจและปลอดภัยในการเดินทางยิ่งขึ้น
ด้วยแนวทางทั้ง 10 ข้อนี้ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถเลือกบัตรเครดิตที่คุ้มค่าได้มากยิ่งขึ้น และสามารถใช้บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวางแผนการเงินและการจับจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น